วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ไตรลักษณ์ เป็นธรรมะที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ แปลว่า ลักษณะ 3 ประการ หมายถึงสามัญลักษณะ คือ กฎธรรมดาของสรรพสิ่งทั้งปวง อันได้แก่ อนิจจัง ความไม่เที่ยง ทุกสิ่งในโลกย่อมมีการแปรเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา ทุกขัง ความเป็นทุกข์ คือ มีความบีบคั้นด้วยอำนาจของธรรมชาติทำให้ทุกสิ่งไม่สามารถทนอยู่ในสภาพเดิมได้ตลอดไป และ อนัตตา ความที่ทุกสิ่งไม่สามารถบังคับบัญชาให้เป็นไปตามต้องการได้ เช่น ไม่สามารถบังคับให้ชีวิตยั่งยืนอยู่ได้ตลอดไป ไม่สามารถบังคับจิตใจให้เป็นไปตามปรารถนา เป็นต้น
ที่มาhttp://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C

ครูเกษียณนับแสนไม่มีอัตราทดแทนเร่งหารือ คปร.-ก.พ.ก่อนสายเกินแก้




ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ สพฐ.จัดสอบแข่งขันเพื่อบรรจุข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในตำแหน่งครู ผู้ช่วยครั้งที่ 2/2552 ในเดือน ก.พ. 53 เพราะขณะนี้มีตำแหน่งว่างอยู่ใน 28 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จำนวน 535 อัตรา แต่เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการสอบแข่งขันและขึ้นบัญชีรอการบรรจุแล้ว 2 รอบ คือ ครั้งที่ 1/2551 มีผู้ขึ้นบัญชี 7,345 คน ซึ่งจะครบกำหนด 2 ปีในเดือน พ.ค. 53 และ ครั้งที่ 1/2552 อีก 16,660 คน และบัญชีจะครบกำหนดเดือน มิ.ย. 54

เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อไปว่า จากข้อมูลดังกล่าวที่ประชุมเห็นว่า จำนวนผู้ที่สอบขึ้นบัญชีทั้ง 2 บัญชีมีมากเพียงพอกับอัตราว่างของโรงเรียนในแต่ละ สพท.ที่จะสามารถเรียกมาบรรจุแต่งตั้งได้ จึงมีมติไม่ให้มีการจัดสอบแข่งขันครั้งที่ 2/2552 ตามข้อเรียกร้อง แต่จะให้มีการสอบแข่งขันให้สอดคล้องกับนโยบายที่คณะกรรมการข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จะกำหนดให้มีการสอบบรรจุแต่งตั้งปีละ 1 ครั้งในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีผู้จบการศึกษารุ่นใหม่ออกมา และจะได้ไม่ส่งผลกระทบกับโรงเรียนเอกชนที่ร้องเรียนมาเสมอว่า การจัดสอบบรรจุในช่วงกลางปีการศึกษาทำให้ครูขอลาออกเพื่อไปสอบเป็นจำนวนมาก

ดร.ชินภัทร กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงการบริหารงานบุคคลในสพท. ที่พบว่ามีปัญหาการกระจุกตัวของข้าราชการครูอยู่ ทำให้บางโรงเรียนมีครูเกิน บางโรงเรียนก็ขาด และการบรรจุแต่งตั้งก็ไม่สอดคล้องกับความขาดแคลนครูของโรงเรียน อีกทั้ง สพท.มีการบริหารกรอบอัตรากำลังที่ไม่ชัดเจน และในภาพรวมก็ไม่มีการเตรียมการเรื่องอัตรากำลังครูที่ดีเท่าที่ควร ซึ่งสิ่งที่น่ากังวลมากคือ ในอีก 5-7 ปีข้างหน้าจะมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเกษียณอายุราชการประมาณ 1 แสนคน เมื่อรวมกับอัตรากำลังที่ขาดแคลนอยู่แล้วในปัจจุบันอีกกว่า 4 หมื่นคน จะทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนอัตราอย่างหนักหากไม่มีอัตรากำลังมาทดแทน ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมของการจัดการศึกษาได้ ที่ประชุมจึงมอบให้สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (สพร.) สพฐ.จัดเตรียมข้อมูลเพื่อหารือร่วมกับคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบาย กำลังคนภาครัฐ (คปร.) และสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) รวมถึง หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป.
ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm

ประมวลจริยธรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

เห็นชอบร่างประมวลจริยธรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

ครม. ได้เห็นชอบร่างประมวลจริยธรรมข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ โดยให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณา แก้ไขปรับปรุงร่างประมวลจริยธรรมด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยสาระสำคัญของร่างประมวลจริยธรรม มีดังนี้

· กำหนดหลักการเกี่ยวกับอุดมการณ์ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

· กำหนดคำนิยาม ค่านิยม จริยธรรม จรรยา ประมวลจริยธรรม ข้าราชการ คณะกรรมการจริยธรรม ของขวัญ และหัวหน้าส่วนราชการ

· กำหนดค่านิยมหลักที่ต้องยึดมั่น

· กำหนดจริยธรรมที่ต้องยึดถือปฏิบัติ เช่น ยึด มั่นในคุณธรรม จริยธรรม ศรัทธาและปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นต้น

· กำหนด จรรยาที่ต้องยึดถือปฏิบัติ เช่น ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม ศรัทธาและปฏิบัติตนตามหลักศาสนาที่ตนนับถือ ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ยึดถือประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้องเที่ยงธรรม มีจิตบริการ เป็นแบบอย่างที่ดีในการดำรงตน เป็นต้น

· กำหนด ให้คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ควบคุมกำกับการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม กำหนดให้มีคณะกรรมการจริยธรรมประจำส่วนราชการและกำหนดอำนาจหน้าที่

· กำหนด ให้หัวหน้าส่วนราชการและผู้บริหารส่วนราชการมีหน้าที่ปฏิบัติตามประมวล จริยธรรมและประพฤติตนเป็นแบบอย่างแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา และกำหนดอำนาจหน้าที่

· กำหนดให้มีการจัดตั้งกลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมขึ้นในทุกส่วนราชการขึ้นตรงต่อหัวหน้าส่วนราชการ และกำหนดอำนาจหน้าที่

· กำหนดให้การฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมตามหมวด ๔ เป็นความผิดทางวินัย สำหรับการฝ่าฝืนประมวล จริยธรรมตามหมวด ๕ ไม่ถือเป็นความผิดทางวินัย แต่ให้นำหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยมาใช้บังคับโดยอนุโลม และกำหนดให้การกระทำครั้งเดียวที่มีทั้งความผิดทางวินัยและฝ่าฝืนประมวลจริยธรรมให้ลงโทษทางวินัยได้ครั้งเดียว

· กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการดำเนินการตามประมวลจริยธรรมของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการจริยธรรม และหัวหน้าส่วนราชการส่งเสริมจริยธรรมของข้าราชการ

· กำหนดอำนาจหน้าที่ในการวินิจฉัยปัญหาการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรม

· กำหนด บทเฉพาะกาล การแต่งตั้งคณะกรรมการจริยธรรม กลุ่มงานคุ้มครองจริยธรรมในส่วนราชการ และให้มีการประเมินการปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมเมื่อครบกำหนดหนึ่งปีนับแต่ วันที่ประมวลจริยธรรมมีผลใช้บังคับ

อนุมัติการทบทวนระบบบริหารจัดการนมโรงเรียน

ครม.อนุมัติในหลักการแนวทางการทบทวนระบบบริหารจัดการนมโรงเรียน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สำหรับ การจัดซื้อด้วยวิธีการพิเศษ ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังไปพิจารณา โดยเห็นชอบในหลักการให้ทบทวนระบบบริหารจัดการนมโรงเรียน โดยให้ อ.ส.ค.เป็นองค์กรกลางในการบริหารจัดการนมโรงเรียน และให้ อ.ส.ค.ช่วยรับซื้อน้ำนมดิบส่วนเกิน MOU ต่อไปก่อน โดยให้จัดสรรสิทธิการ จำหน่ายหรือหาผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิมาช่วยจำหน่ายนมส่วนนี้ให้กับ อ.ส.ค.ในโอกาสแรกที่จะดำเนินการต่อไป และมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณารายละเอียดการทบทวนระบบบริหารจัดการนม โรงเรียนโดยมีหน้าที่พิจารณารายละเอียดการทบทวนระบบบริหารจัดการนมโรงเรียน

โดย ให้ อ.ส.ค.เป็นองค์กรกลางบริหารจัดการนมโรงเรียน เพื่อรองรับน้ำนมดิบที่นำมาแปรรูปเข้าสู่ตลาดนมโรงเรียนได้ทั้งหมด และพิจารณาในรายละเอียดด้านการบริหารจัดการ โดย อ.ส.ค.จัดระบบบัญชีและการบริหารโครงการฯ แยกออกจากงานปกติเพื่อให้เกิดความคล่องตัวและโปร่งใส เกษตรกร จำหน่ายน้ำนมดิบได้หมด ได้รับเงินค่านมตรงเวลาและเด็กนักเรียนได้ดื่มนมที่มีคุณภาพ ซึ่งมีกรอบการปรับโครงสร้างระบบบริหารจัดการนมโรงเรียนเสนอคณะกรรมการโคนม และผลิตภัณฑ์นมเพื่อพิจารณา.

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ห้องเรียนคุณภาพ

ห้องเรียนคุณภาพ
องค์ประกอบของห้องเรียนคุณภาพประกอบด้วย
ครู
1. ครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง
2. การออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐาน ( BWD )
3. การใช้ ICT เพื่อการสอนและการสนับสนุนการสอน
4. การวิจัยในชั้นเรียน ( CAR )
5. สร้างวินัยเชิงบวก ( Positive Discipline

ผู้บริหารสถานศึกษา
1. ผู้บริหารผู้นำการเปลี่ยนแปลง
2. หลักสูตร
3. ICT โรงเรียน
4. การวางแผนพัฒนาตนเอง( ID Plan)
5. ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน


ในระดับครูผู้สอน จะต้องมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 4 ประการคือ
1. Effective Syllabus : กำหนดหน่วยการเรียนรู้/หลักสูตรระดับรายวิชาที่มีประสิทธิภาพ
2. Effective Lesson Plan : จัดทำแผนการสอน/แผนจัดการเรียนรู้๔ที่มีประสิทธิภาพ
3. Effective Teaching : จัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
4. Effective Assessment : วัดและประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ
การสร้างวินัยเชิงบวก
การสร้างวินัยเชิงบวก คือ การปฏิบัติต่อเด็กในฐานะผู้ที่กำลังเรียนรู้โดยปราศจากการใช้ความรุนแรงและเคารพในศักดิ์ศรีเป็นแนวทางในการสอนที่ช่วยให้เด็กประสบความสำเร็จให้ความรู้แก่เด็ก และสนับสนุนการเติบโต
สรุปได้ว่าการสร้างวินัยเชิงบวก คือต้อง ปราศจากความรุนแรง มุ่งที่การแก้ปัญหา เคารพในศักดิ์ศรี และอยู่บนหลักของการพัฒนาเด็ก
หลัก 7 ประการของการสร้างวินัยเชิงบวก
1. เคารพศักดิ์ศรีของเด็ก
2. พยายามพัฒนาพฤติกรรมที่พึงประสงค์ การมีวินัยในตนเอง และบุคลิกลักษณะที่ดี
3. พยายามให้เด็กมีส่วนร่วมมากที่สุด
4. คำนึงถึงความต้องการทางพัฒนาการและคุณภาพชีวิตของเด็ก
5. คำนึงถึงแรงจูงใจและโลกทัศน์ของเด็ก
6. พยายามให้เกิดความยุติธรรม เท่าเทียมกัน และไม่เลือกปฏิบัติ
7. เสริมสร้างความสามัคคีกลมเกลียวในกลุ่ม
ขั้นตอนของการสร้างวินัยเชิงบวก
1. มีการบรรยายถึงพฤติกรรมที่เหมาะสม เช่น ตอนนี้ครูขอให้ทุกคนเงียบก่อนนะ
2. มีการให้เหตุผลที่ชัดเจน เช่น เราจะเริ่มเรียนคณิตศาสตร์บทใหม่แล้ว ทุกคนต้องตั้งใจฟังนะ ซึ่งหมายความว่าการเงียบโดยเร็วเป็นการเคารพสิทธิผู้อื่น เป็นตัวอย่างของการปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนกับที่เราอยากให้เขาปฏิบัติต่อเรา
3. ขอให้นักเรียนแสดงอาการรับรู้ เช่น เธอเห็นรึยังว่าทำไมการเงียบก่อนเริ่มเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญ แล้วคอยให้นักเรียนแสดงอาการรับรู้และเห็นชอบด้วยก่อนทำอย่างอื่นต่อไป
4. มีการให้รางวัลหรือแสดงความชื่นชมต่อพฤติกรรมที่เหมาะสม เช่น โดยการสบตา พยักหน้า ยิ้มหรือให้เวลาพักเล่นอีกห้านาที การให้คะแนนเพิ่ม ( การได้รับการยอมรับและชื่นชมจากสังคมเป็นรางวัลที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง
การวิจัยในชั้นเรียน ( CAR )
CAR : Classroom Action Research
CAR มีขั้นตอนการปฏิบัติอยู่ 4 ขั้นตอน
CAR1 : การวิเคราะห์ผู้เรียน
CAR2 : การประเมินเพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และการสอนของตนเอง
CAR3 : การแก้ปัญหานักเรียน
CAR4 : การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้และ ID Plan

การวางแผนพัฒนาตนเอง ( ID Plan )
ID Plan : Individual Development Plan
ID Plan ประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ
ส่วนที่ 1 ข้อมูลส่วนบุคคล ( ทั่วไป )
ส่วนที่ 2 ข้อมูลการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนที่ 3 การพัฒนาตนเองตามสมรรถนะ
ที่มาhttp://krusukhothai.blogspot.com/2009/09/blog-post_5178.html

แนวคิด "ห้องเรียนคุณภาพ" ของ ดร.สุพักตร์ พิบูลย์

..แนวคิด "ห้องเรียนคุณภาพ" จะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับ
...............กระบวนการบริหารจัดการหรือการขับเคลื่อนที่เป็นระบบ อิงหลักวิชาการ

........เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2552 ผมได้มีโอกาสไปบรรยายเรื่อง การนำแนวคิด“ห้องเรียนคุณภาพ” สู่การปฏิบัติ ให้แก่ รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กทม.เขต 2 ณ โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์–รีเจนต์ ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี หลังจากนั้นก็ได้บรรยายในเรื่องนี้อีกหลายครั้งให้แก่ครูและผู้บริหารสถานศึกษาต่าง ๆ โดยสรุป ผมเห็นว่าในการขับเคลื่อนแนวคิดห้องเรียนคุณภาพในระดับสถานศึกษา ควรดำเนินการดังต่อไปนี้
........1. Taking Stock : วิเคราะห์สภาพปัจจุบัน หรือ จัดทำฐานข้อมูล(Baseline) ในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน-ณ วันนี้ การจัดการเรียนการสอนระดับรายวิชา/ระดับบุคคล มีคุณภาพมากน้อยเพียงใด-มีรายวิชาร้อยละเท่าไร ที่มีคุณภาพระดับดีมาก ตามเกณฑ์ห้องเรียนคุณภาพ-ร้อยละเท่าไรของอาจารย์ประจำชั้น ที่มีคุณภาพการบริหารจัดการห้องเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ หรือมีคุณภาพระดับดีมาก-คุณภาพการศึกษาของโรงเรียนเรา เมื่อพิจารณาจากผลการสอบระดับชาติ เป็นอย่างไร มีคุณภาพติดใน 100 อันดับแรกของประเทศหรือไม่
........2. Setting Goals : สร้างความตระหนักและกำหนดเป้าหมายคุณภาพสถานศึกษาจะต้องสร้างความตระหนักในปัญหาคุณภาพการศึกษาและความจำเป็นในการ “นำความเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียน : หน่วยปฏิบัติการที่เล็กที่สุด” โดยจะต้องร่วมกันกำหนดเป้าประสงค์ว่า “ทุกรายวิชา จะต้องผ่านการรับรองมาตรฐานการจัดการเรียนการสอนระดับ “ดี-ดีมาก” (ตามเกณฑ์ห้องเรียนคุณภาพ ภายในปี 2553)
........3. Developing Strategies : กำหนดยุทธศาสตร์ จัดทำแผนงาน/โครงการหรือกิจกรรมการพัฒนาเพื่อก้าวสู่ “ห้องเรียนคุณภาพ”-การออกแบบการเรียนรู้รายวิชา-โครงการ/กิจกรรมระดับกลุ่มสาระ-โครงการ/กิจกรรมระดับโรงเรียน
........4. จัดทำปฏิทินการบริหารจัดการในรอบปี เพื่อก้าวสู่ “ห้องเรียนคุณภาพ”ตัวอย่าง ปฏิทินงานพัฒนาห้องเรียนคุณภาพ ปี 2552
1) กำหนดตัวชี้ ห้องเรียนคุณภาพ พร้อมประชาพิจารณ์ ......เม.ย. 2552
2) วิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา กำหนด Baseline............พ.ค. 2552
3) วางแผน/จัดทำแผนงาน โครงการ/กิจกรรม ..................พ.ค. 2552
4) ดำเนินการตามแผน(1) : กำกับ ติดตาม นิเทศและ ประเมินความก้าวหน้า 1..........มิ.ย.-ก.ย. 2552
5) ดำเนินการตามแผน(2) : กำกับ ติดตาม นิเทศ ...............พ.ย.52-ก.พ.2553
6) ประเมิน สรุปผลการดำเนินงานในรอบปี ..........................25 มีนาคม 2553
........5. กำกับ ติดตาม นิเทศงาน ตามสายงานบังคับบัญชา
-งานเป็นไปตามแผนหรือไม่(ปัจจัยใดบ้าง ช่วยให้งานเป็นไปตามแผนหรือไม่เป็นไปตามแผน-เก็บสะสมเป็นองค์ความรู้/เป็นบทเรียน)
-มีปัญหา อุปสรรค ที่สำคัญ ๆ อย่างไรบ้าง(ทางออกในการแก้ปัญหาที่ได้ผล คืออย่างไร ปัจจัยใดบ้างช่วยให้สามารถแก้ปัญหาได้ – เก็บสะสมเป็นองค์ความรู้/เป็นบทเรียน)
-ผลงานที่เกิดขึ้นตามช่วงเวลา มีคุณภาพ เป็นที่น่าพอใจหรือไม่ เพียงใด
........6.ให้หน่วยงานย่อย(กลุ่มสาระ) สรุปความก้าวหน้าในการดำเนินงานของตนเอง อย่างต่อเนื่อง เป็นระยะ ๆ
........7. ใช้หลักสัญญาประชาคม ช่วยในการกำกับ ติดตามงาน อาทิ
-ประสานแผนก่อนการดำเนินงาน
-จัดทำปฏิทินในการติดตามงาน
-จัดให้มีการเผชิญหน้าระหว่างหน่วยงานที่เทียบเท่ากัน(กลุ่มสาระ) เพื่อรายงานความก้าวหน้าของงาน
-ฯลฯ
........8. จัดสัมมนาประเมินความก้าวหน้าของงานเป็นระยะ ๆ โดยใช้หลักการเสริมแรง(Advocacy Model) หรือ" เน้นการชี้จุดเด่นของแต่ละหน่วยงาน/ฝ่าย/กลุ่มสาระ/บุคคล มากกว่า การชี้จุดอ่อน หรือ ติ"
........9. พัฒนาระบบการสื่อสารให้รวดเร็ว คล่องตัว เช่น
-เครือข่ายข้อมูล
-ระบบฐานข้อมูล
-การประชุม/ห้องประชุม V.I.P ทาง Internet
-ฯลฯ
........10. Documenting Progress : สรุป/ประเมินผลการดำเนินงานในรอบปี-รายงานการดำเนินงาน ห้องเรียนคุณภาพ รายบุคคล-รายงานการดำเนินงาน ห้องเรียนคุณภาพ รายกลุ่มสาระ-สรุปผลงาน Best Practices-ประเมินศักยภาพ/พัฒนาการ/ความก้าวหน้าของครู
........11. ส่งเสริมความก้าวหน้าในวิชาชีพสำหรับครู ควบคู่กับการพัฒนาสู่“ห้องเรียนคุณภาพ” (กำหนดเป้าหมายร้อยละของครู คศ.3-5)
ในการฝึกอบรมหลักสูตร "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง" มีการกล่าวกันค่อนข้างแพร่หลายว่า "เราจะต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง" พอมาถึงการจัดการเรียนการสอน ก็กล่าวว่า "เราจะต้องนำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียน" ในการนี้ คำถามที่มักถูกถาม(หรืออาจถามในใจ) คือ "อย่างไร จึงจะเรียกว่า เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง"....คำตอบในเรื่องนี้ มีผู้พยายามตอบในหลายลักษณะ เช่น
-เราจะต้องมุ่งมั่น ในการทำงาน
-เราจะต้องตั้งเป้าหมายในการทำงาน และคิดกลวิธีที่มีประสิทธิภาพ
-เราจะต้องบริหารจัดการงานในหน้าที่อย่างเป็นระบบ
-เราจะต้องนำนวัตกรรม วิธีการใหม่ ๆ มาใช้ในการพัฒนางาน
-เราจะต้องตรวจสอบความสำเร็จของงานเป็นระยะ ๆ
-เราจะต้องพัฒนางาน จนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
-ฯลฯ
........จากการพยายามอธิบาย "ภาวะการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง" ดังกล่าวข้างต้น จะพบว่า ส่วนหนึ่งเป็นคำอธิบายที่สะท้อนถึงพฤติกรรมการทำงานหรือความพยายามในการพัฒนางาน(Attempt) อีกส่วนหนึ่ง(ที่ระบายสีแดง) เป็นคำอธิบายที่กล่าวถึงหรือสะท้อนถึงความสำเร็จของงาน(Achieved)

........ในทัศนะของผู้เขียน เห็นว่า ใครก็ตามที่มีความพยายามสูงมากในการพัฒนางาน(พยายามพัฒนางานในทุกวิถีทาง)...น่าจะได้ชื่อว่า "ผู้พยายามเปลี่ยนแปลงคุณภาพงาน" ใครก็ตามที่พยายามพัฒนางาน จนประสบความสำเร็จ(Achieved) น่าจะเรียกว่า "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง"
-ถ้าผลงานปีนี้(ตามตัวชี้วัดคุณภาพ) ดีกว่าปีที่แล้วอย่างมาก....ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง..
เกรด A
-ถ้าผลงานปีนี้(ตามตัวชี้วัดคุณภาพ) ดีกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก..ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
เกรด B
-ถ้าผลงานปีนี้(ตามตัวชี้วัดคุณภาพ) ดีกว่าปีก่อนเล็กน้อย...ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
เกรด C(ผ่าน)

........ตามคำนิยาม และการตีค่าผู้นำการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวข้างต้น ครูทุกคน ต้องนำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียน หรืออีกนัยหนึ่งก็ คือ จะต้องพัฒนาให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน/คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในตัวผู้เรียน/สมรรถนะในตัวผู้เรียน ในปีหลัง สูงกว่าในปีก่อน ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงจะถือว่า เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง...ซึ่ง หากเราทำได้เช่นนี้ สัก 10 ปี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก้พัฒนาขึ้น 10 ขั้น...สักวันหนึ่ง คุณภาพการศึกษาของประเทศ จะก้าวขึ้สู่ความเป็นเลิศได้อย่างแน่นอน

.......ความสำคัญของการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง คือ "ครูทุกคน/นักพัฒนาทุกคน จะต้องมุ่งมั่น ตั้งใจและสัญญากับตนเอง(Self-MOU) ว่า จะพัฒนางาน ให้ปรากฏผลงานปีหลัง ๆ ดีกว่าปีก่อน ๆ อย่างสม่ำเสมอ" หากเราทำได้ "เราคือผู้นำการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง"
ในการฝึกอบรมหลักสูตร "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง" มีการกล่าวกันค่อนข้างแพร่หลายว่า "เราจะต้องเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง" พอมาถึงการจัดการเรียนการสอน ก็กล่าวว่า "เราจะต้องนำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียน" ในการนี้ คำถามที่มักถูกถาม(หรืออาจถามในใจ) คือ "อย่างไร จึงจะเรียกว่า เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง"....คำตอบในเรื่องนี้ มีผู้พยายามตอบในหลายลักษณะ เช่น
-เราจะต้องมุ่งมั่น ในการทำงาน
-เราจะต้องตั้งเป้าหมายในการทำงาน และคิดกลวิธีที่มีประสิทธิภาพ
-เราจะต้องบริหารจัดการงานในหน้าที่อย่างเป็นระบบ
-เราจะต้องนำนวัตกรรม วิธีการใหม่ ๆ มาใช้ในการพัฒนางาน
-เราจะต้องตรวจสอบความสำเร็จของงานเป็นระยะ ๆ
-เราจะต้องพัฒนางาน จนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย
-ฯลฯ
........จากการพยายามอธิบาย "ภาวะการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง" ดังกล่าวข้างต้น จะพบว่า ส่วนหนึ่งเป็นคำอธิบายที่สะท้อนถึงพฤติกรรมการทำงานหรือความพยายามในการพัฒนางาน(Attempt) อีกส่วนหนึ่ง(ที่ระบายสีแดง) เป็นคำอธิบายที่กล่าวถึงหรือสะท้อนถึงความสำเร็จของงาน(Achieved)

........ในทัศนะของผู้เขียน เห็นว่า ใครก็ตามที่มีความพยายามสูงมากในการพัฒนางาน(พยายามพัฒนางานในทุกวิถีทาง)...น่าจะได้ชื่อว่า "ผู้พยายามเปลี่ยนแปลงคุณภาพงาน" ใครก็ตามที่พยายามพัฒนางาน จนประสบความสำเร็จ(Achieved) น่าจะเรียกว่า "ผู้นำการเปลี่ยนแปลง"
-ถ้าผลงานปีนี้(ตามตัวชี้วัดคุณภาพ) ดีกว่าปีที่แล้วอย่างมาก....ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง..
เกรด A
-ถ้าผลงานปีนี้(ตามตัวชี้วัดคุณภาพ) ดีกว่าปีก่อนค่อนข้างมาก..ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
เกรด B
-ถ้าผลงานปีนี้(ตามตัวชี้วัดคุณภาพ) ดีกว่าปีก่อนเล็กน้อย...ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
เกรด C(ผ่าน)

........ตามคำนิยาม และการตีค่าผู้นำการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวข้างต้น ครูทุกคน ต้องนำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียน หรืออีกนัยหนึ่งก็ คือ จะต้องพัฒนาให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน/คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในตัวผู้เรียน/สมรรถนะในตัวผู้เรียน ในปีหลัง สูงกว่าในปีก่อน ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงจะถือว่า เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง...ซึ่ง หากเราทำได้เช่นนี้ สัก 10 ปี ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก้พัฒนาขึ้น 10 ขั้น...สักวันหนึ่ง คุณภาพการศึกษาของประเทศ จะก้าวขึ้สู่ความเป็นเลิศได้อย่างแน่นอน

.......ความสำคัญของการเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง คือ "ครูทุกคน/นักพัฒนาทุกคน จะต้องมุ่งมั่น ตั้งใจและสัญญากับตนเอง(Self-MOU) ว่า จะพัฒนางาน ให้ปรากฏผลงานปีหลัง ๆ ดีกว่าปีก่อน ๆ อย่างสม่ำเสมอ" หากเราทำได้ "เราคือผู้นำการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง"
ในปี 2552 หลังจากได้ศึกษาแนวคิดของ สพฐ. และแนวคิดของ Hasting(2006) แล้ว ผมคิดว่า ในการกำหนดมาตรฐานห้องเรียนคุณภาพ น่าจะกำหนดมิติคุณภาพและรายการพฤติกรรมบ่งชี้ที่สำคัญ ๆ ดังต่อไปนี้
องค์ประกอบที่ 1 : การวางแผน/ออกแบบการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
........1.1 สร้างหน่วยเรียนรู้ อิงมาตรฐาน(Effective Syllabus)
........1.2 จัดทำแผนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ(Effective Lesson Plan)
........1.3 เตรียมสื่อประกอบการสอน พร้อมใช้

องค์ประกอบที่ 2 : ปฏิบัติการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ
........2.1 ใช้เทคนิค/วิธีการสอนที่หลากหลาย/เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
........2.2 ใช้ ICT สนับสนุนการจัดการเรียนรู้
........2.3 เสริมสร้างวินัยเชิงบวก/เสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในกระบวนการสอน

........2.4 ดูแล ส่งเสริมด้านสุขภาพกาย สุขภาพจิตนักเรียน
องค์ประกอบที่ 3 : วิจัย วัดผล ประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ

........3.1 นำวิธีการใหม่ ๆ มาทดลองใช้ในกระบวนการจัดการเรียนรู้/วิจัยในชั้นเรียน
........3.2 พัฒนาวิธีการ/เครื่องมือวัดผล มีคุณภาพ เน้นประเมินตามสภาพจริง
........3.3 นำผลการวิจัย/การประเมินมาใช้เพื่อ
พัฒนาการเรียนรู้
องค์ประกอบที่ 4 : สามารถนำการเปลี่ยนแปลงสู่ผู้เรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม
........4.1 ผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน(เกรดเฉลี่ยกลุ่มที่สอน, O-Net)
........4.2 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนตามที่หลักสูตรกำหนด
........4.3 ทักษะ/สมรรถนะของนักเรียนตามที่หลักสูตรกำหนด

........ครูคนใด/รายวิชาใด สะท้อนคุณภาพ ระดับดีมาก(A) ทั้ง 4 องค์ประกอบ ก็ถือได้ว่าเป็นครูยอดเยี่ยม.....
ตัวชี้วัดห้องเรียนคุณภาพ
1 การนำการเปลี่ยนแปลงสู่ห้องเรียนคุณภาพ
1.1 ความรู้
1.1.1
แนวคิดในการเปลี่ยนแปลง
1.1.2
การจัดการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลง
1.1.3
การจัดห้องเรียนที่มีประสิทธิภาพห้องเรียนคุณภาพ
1.2 ผลปฏิบัติงาน
1.2.1
แผนพัฒนาตนเอง
1.2.2
ผลงานเชิงสร้างสรรค์
1.3 ตัวชี้วัด
1.3.1
มีความตื่นตัวในทางสร้างสรรค์ ทุ่มเทในการทำงานอย่างสุดชีวิตจิตใจ
1.3.2
มีแผนการพัฒนาตนเอง ร่วมมือกันทำงาน และมีผลงานอย่างสร้างสรรค์

2. การออกแบบการจัดการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
2.1
ความรู้
2.1.1
การออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน
2.1.2
รูปแบบ Back ward Design
2.1.3
ผู้บริหารนิเทศ Coach การจัดกิจกรรมเรียนรู้
2.1.4
ออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
2.1.5
รายงานผลการพัฒนาผู้เรียนด้วยระดับคุณภาพ
2.2
ผลปฏิบัติงาน
2.2.1
ออกแบบหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
2.2.2
รายงานผลการพัฒนาผู้เรียนด้วยระดับคุณภาพ
2.3
ตัวชี้วัด
2.3.1
นักเรียนมีผลงาน, ชิ้นงาน ที่สะท้อนคุณภาพการคิดระดับสูง มีผลงานในระดับจังหวัด

3 การวิจัยในชั้นเรียน (CAR)
3.1
ความรู้
3.1.1
การจัดทำ ID Plan
3.1.2
การวิจัยในชั้นเรียน
3.2
ผลปฏิบัติงาน
3.2.1
ปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ของตนเอง
3.2.2
รายงานการพัฒนาตนเองและนักเรียน
3.3
ตัวชี้วัด
3.3.1
ใช้ CAR พัฒนาตนเองและนักเรียน
3.3.2
มีเพื่อนสะท้อนความคิด

4 การใช้ ICT เพื่อการสอนและสนับสนุนการสอน
4.1 ความรู้
5.4.1.1
การใช้ ICT เพื่อการพัฒนาการเรียน
4.2
ผลปฏิบัติงาน
4.2.1
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนใช้หรือทำสื่อ ICTและการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียมจากโรงเรียนวังไกลกังวล
4.2.2
มี e-mail ; ssrk1016@obec.obecmail.go.thและเผยแพร่ผลงานทางเว็บไซต์www.sk1edu.org/klongsrimaung
4.3
ตัวชี้วัด
4.3.1
มีแผนการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่มีการใช้ICT หรือการบูรณาการสาระวิชาต่าง ๆ อย่างหลากหลาย

5. การสร้างวินัยเชิงบวก (Positive Discipline)
5.1 ความรู้
5.5.1.1
ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนการสร้างวินัยเชิงบวก
5.2
ผลปฏิบัติงาน
5.5.2.1
จัดการพัฒนานักเรียนในชั้นอย่างเป็นระบบ
5.3
ตัวชี้วัด
ครูมีพฤติกรรมเชิงบวก จัดระบบการพัฒนานักเรียน อย่างเป็นระบบ เป็นองค์รวม ทั้งร่างกายสติปัญญา สังคม และอารมณ์

6. การประชุมปฏิบัติการวางแผน
6.1 เป้าหมายการพัฒนาครูในโรงเรียน โดยพาทำ
6.2
ข้อเสนอแนะ, แนวคิดในการทำแผน
6.2.1 Base line
ของแต่ละโรงเรียน
6.2.1.1
ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน
6.2.2.4 จำนวนนักเรียน, ครู

6.2.2 การวิเคราะห์บริบท และสภาพปัจจุบันของโรงเรียน
6.2.3
สาระเนื้อหาหลักสูตร หาแนวทางพัฒนาต่อยอด
6.3
การนำเสนอ (ในกิจกรรม) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ที่มา http://www.sk1edu.org/klongsrimaung/index42.html

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงงบประมาณโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง (SP2) ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๒
รมว.ศธ. กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้งบประมาณในปี ๒๕๕๓ จากโครงการแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง (SP2) โดยมีโครงการสำคัญๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการจะดำเนินงาน ๑๕ โครงการ ดังนี้
*
โครงการติวฟรีอย่างมีคุณภาพ (Tutor Channel)
*
โครงการโรงเรียนดี ๓ ระดับ จำนวน ๑๐,๐๐๐ โรง
*
โครงการยกระดับคุณภาพโรงเรียนขนาดเล็ก จำนวน ๙,๐๐๐ โรง
*
โครงการยกระดับคุณภาพของโรงเรียนพื้นที่ทุรกันดาร โรงเรียนด้อยโอกาส โรงเรียนเด็กพิการ และโรงเรียนในพระราชดำริ จำนวน ๓,๐๘๒ โรง
*
โครงการห้องสมุด ๓ดี จำนวน ๓๐,๐๐๐ แห่ง
*
โครงการคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้สัดส่วนจากนักเรียน ๔๐ คนต่อคอมพิวเตอร์ ๑ เครื่อง เป็นนักเรียน ๑๐ คนต่อคอมพิวเตอร์ ๑ เครื่อง โดยจะจัดงบประมาณให้โรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการเอง และได้มอบเป็นนโยบายไปยังองค์กรหลักต่างๆ แล้ว
*
โครงการ UniNet หรือโครงการอินเทอร์เน็ตเครือข่ายความเร็วสูง
*
โครงการอบรมพัฒนายกระดับคุณภาพและศักยภาพของครู ๕๐๐,๐๐๐ คนทั่วประเทศ
*
โครงการศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค (Education Hub)
โครงการพัฒนามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ
*
โครงการยกระดับคุณภาพการศึกษาระดับอาชีวศึกษาสู่ความทันสมัย
*
โครงการสถานีโทรทัศน์เพื่อการศึกษา หรือ E Free TV
*
โครงการจัดตั้ง กศน.ตำบล มีอินเทอร์เน็ต คอมพิวเตอร์ และสารสนเทศ
*
โครงการพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีพิเศษ ตามแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้
*
โครงการพัฒนามหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
รมว.ศธ. กล่าวสรุปว่า หากกระทรวงการคลังส่งงบประมาณมายังกระทรวงศึกษาธิการ คาดว่าภายในกลางเดือนนี้ ก็จะได้กระจายเงินไปยังพื้นที่ต่างๆ ในทันทีภายใน ๑ สัปดาห์.


เป้าหมายการพัฒนาครูในการปฏิรูปการศึกษารอบสอง

รมว.ศธ.กล่าวว่า ครูถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่งของการปฏิรูปการศึกษารอบสอง ซึ่งต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้นำแนวทางการพัฒนาครูบรรจุไว้ตามนโยบายในการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง คือ"นโยบาย ๓ ดี ๔ ใหม่" (๓ดี คือ Democracy-Decency-Drug-freeและ ๔ใหม่ คือ การสร้างคนไทยยุคใหม่-ครูยุคใหม่-แหล่งเรียนรู้และสถานศึกษายุคใหม่-ระบบบริหารจัดการแบบใหม่) นอกจากนี้ยังมีนโยบายต่างๆ ที่เป็นรูปธรรมทั้งในส่วนของการเพิ่มศักยภาพครู การให้คนเก่งเข้ามาเป็นครูมากขึ้น การเพิ่มขวัญกำลังใจให้ครู โดยขอยกตัวอย่างในบางโครงการที่ดำเนินการไปแล้วเพื่อให้เห็นภาพ ดังนี้
  • การอบรมพัฒนาครูขนานใหญ่ทั้งระบบ เดิมสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดอบรมพัฒนาครูเฉลี่ยปีละ ๒,๐๐๐ คนเท่านั้น ในขณะที่ครู สพฐ.มีจำนวนมากถึง ๔๕๐,๐๐๐ คน ดังนั้นเพื่อไม่ให้ความก้าวหน้าของโลกล้ำหน้าครูไปมากกว่านี้ จึงมีโครงการที่จะพัฒนาครูและผู้บริหารทุกคนในปีงบประมาณ ๒๕๕๓ โดยเฉพาะผู้บริหารสถานศึกษาจะเริ่มอบรมให้เสร็จในปีเดียว เพราะหากผู้บริหารสถานศึกษาไม่ได้เรื่องหรือไม่เข้าใจการปฏิรูปการศึกษาและการพัฒนาตนเองแล้ว จะกลายเป็นปัญหาสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสถานศึกษานั้นๆ เพราะครูก็จะทำอะไรไม่ได้ สำหรับครูในบางวิชา เช่น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ จะให้ทางศูนย์เรคแซม มาเลเซีย มาช่วยอบรมพัฒนาโดยนำระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยการอบรมในช่วงปิดเทอมนี้ ส่วนขั้นตอนการอบรมครูนั้นจะเน้นเป็นรายคน เพื่อเป็นการให้ยาถูกขนาน มีการทดสอบทั้งก่อนและหลังการอบรม มีการให้เกรดในการประเมินผล อบรมเสร็จแล้วจะมีสื่อการสอนสมัยใหม่ติดตัวไปด้วย โดยไม่ให้กลับไปมือเปล่า พร้อมมีระบบกำกับติดตามผลการอบรมด้วย โดย ศธ.จัดเตรียมงบประมาณไว้แล้ว ๘,๐๐๐ ล้านในการพัฒนาครูขนานใหญ่ทั้งระบบทุกสังกัดในปีนี้

  • ครูพันธุ์ใหม่ เดิมได้กำหนดเกรดเฉลี่ยผู้ที่จะเข้าเป็นครูพันธุ์ใหม่ไว้ที่ ๒.๗๕ แต่ตนเห็นว่าอยากได้เกรดเฉลี่ย ๓.๐ ขึ้นไป ซึ่งคงจะต้องนำไปหารือกันอีกภายหลัง อย่างไรก็ตามโครงการครูพันธุ์ใหม่นี้ได้รับความสนใจสอบถามจากเด็กๆ ผ่านรายการ Tutor Channelกันอย่างมากมาย

  • โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด โดย ครม.ได้อนุมัติให้ข้าราชการที่เหลือ สพฐ.อีก ๑,๓๑๒ ราย ได้เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด โดยใช้งบประมาณของ สพฐ.ปี ๒๕๕๓ เจียดจ่ายช่วยเหลือไปก่อนประมาณ ๑๐๐ ล้านบาท และมีเงื่อนไขว่าเงินขวัญถุงจำนวน ๘-๑๕ เท่าของเงินเดือน ขอให้จ่ายเพียง ๙ เท่าก่อนในปี ๒๕๕๓ ส่วนที่เหลือจะจ่ายในปีงบประมาณ ๒๕๕๔

  • กรอบมาตรฐานคุณวุฒิ (TQF) เพื่อคุมคุณภาพการผลิตครูของสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ผลิตครู ให้ได้คุณภาพและมาตรฐานมากขึ้น โดยจะเริ่มบังคับใช้ในต้นปี ๒๕๕๓

  • การผลิตครูเชิงปริมาณ ได้ให้ อ.วรากรณ์ สามโกเศศ รับผิดชอบเพื่อพิจารณาดูปริมาณครูและความต้องการครูในอนาคต ๑๐ ปีข้างหน้าว่าต้องผลิตครูจำนวนเท่าใด และควรผลิตสาขาใดบ้าง เพื่อให้สถาบันการอุดมศึกษาที่ผลิตครูทั้ง ๗๑ แห่งรับไปผลิตไม่ให้ซ้ำซ้อนกัน นอกจากนี้อีกส่วนที่กำลังประสบวิกฤตขาดแคลนอย่างมากคือ การผลิตครูของครู หรือผลิตผู้จบปริญญาโทและเอกไปสอนในคณะศึกษาศาสตร์/ครุศาสตร์

  • การประเมินวิทยฐานะครู ได้เริ่มใช้เกณฑ์ประเมินวิทยฐานะครูใหม่ตั้งแต่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๒ เพื่อใช้สำหรับวัดคุณภาพ ความสามารถ และผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งกล่าวโดยสรุปก็คือ ประเมินครูให้เป็นคนเก่ง ดี มีผลงาน โดยค่าของการประเมิน ๖๐%จะวัดไปที่ผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน ส่วนอีก ๔๐% ดูที่การวิจัยในห้องเรียนซึ่งโยงไปถึงผลสัมฤทธิ์ในห้องเรียนของนักเรียนด้วย

  • โครงสร้างเงินเดือนครู กำลังดำเนินการปรับระบบเพดานเงินเดือนครูจากปัจจุบันให้เท่ากับระบบเพดานเงินเดือนของ ก.พ. และเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว จะมีผลให้เพดานเงินเดือนขั้นสูงขั้นต่ำของครูเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย ๘%

  • การแยกประถม-มัธยมฯ เพื่อเน้นไปที่คุณภาพของการศึกษาเป็นหลัก ขณะนี้ความคืบหน้าอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา โดย ศธ.ได้เตรียมงบประมาณในการยกระดับคุณภาพของมัธยมฯ ๙,๐๐๐ ล้านบาท เพราะต้องยอมรับความจริงว่าปรัชญาการสอนของครูมัธยม-ประถมฯ ต่างกัน หากจะให้ครูมัธยมฯ ไปสอนเด็ก ป.๑ ก็เป็นคนละเรื่องกันเลย ไปไม่รอด นโยบายนี้ถือเป็นการแยกเพื่อคุณภาพ เป็นการใช้คนให้เหมาะกับงาน

  • อนาคตที่คิดจะทำต่อไป อย่างน้อย ๒ เรื่อง คือ การพัฒนาสถาบันการผลิตและพัฒนาครูฯ จ.นครปฐม ให้เป็นเสมือนสถาบันที่ผลิตนายอำเภอ สถาบันพระปกเกล้า โดยจะให้เป็นศูนย์กลางในอบรมผู้บริหารก่อนเข้าสู่ตำแหน่งหลังจากผ่านการสอบคัดเลือกแล้ว เพื่อเป็นการพัฒนาภาวะผู้นำและศักยภาพในการบริหาร ส่วนอีกเรื่องหนึ่งคือ การตั้งสถาบันคุรุศึกษา ซึ่งคงจะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะคนเห็นด้วยจำนวนน้อยมาก จึงได้พิจารณาดำเนินการไปในรูปแบบคณะกรรมการคุรุศึกษาแทน

สวัสดีปีใหม่ Grammy Various Artist - สวัสดีปีใหม่
เพลง สวัสดีปีใหม่.mp3 3.76 MB.



สวัสดีปีใหม่ MP3


เพลงไชโยปีใหม่เพลง ไชโยปีใหม่.mp3 5.31 MB.
เพลงรำวงปีใหม่เพลงรำวงปีใหม่.mp3 2.65 MB.
เพลงรื่นเริงเถลิงศกเพลงรื่นเริงเถลิงศก.mp3 7.31 MB.

เพลงสวัสดีปีใหม่เพลง สวัสดีปีใหม่.mp3 3.76 MB.
เพลงไชโยปีใหม่เพลง ไชโยปีใหม่.mp3 5.31 MB.
เพลงรำวงปีใหม่เพลงรำวงปีใหม่.mp3 2.65 MB.
เพลงรื่นเริงเถลิงศกเพลงรื่นเริงเถลิงศก.mp3 7.31 MB.



เพลงสวัสดีปีใหม่เพลง สวัสดีปีใหม่.mp3 3.76 MB.
เพลงไชโยปีใหม่เพลง ไชโยปีใหม่.mp3 5.31 MB.
เพลงรำวงปีใหม่เพลงรำวงปีใหม่.mp3 2.65 MB.
เพลงรื่นเริงเถลิงศกเพลงรื่นเริงเถลิงศก.mp3 7.31 MB.






สวัสดี ปี ใหม่ 2010IPB Image
เพลงสวัสดีปีใหม่เพลง สวัสดีปีใหม่.mp3 3.76 MB.
เพลงไชโยปีใหม่เพลง ไชโยปีใหม่.mp3 5.31 MB.
เพลงรำวงปีใหม่เพลงรำวงปีใหม่.mp3 2.65 MB.
เพลงรื่นเริงเถลิงศกเพลงรื่นเริงเถลิงศก.mp3 7.31 MB.

ที่มา http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://img204.imageshack.us/img204/577/flv261a1tt1.jpg&imgrefurl=http://www.vcharkarn.com/vblog/60670&usg=__pZy2g8gmawRmi85--uhKcmnxhBU=&h=630&w=600&sz=49&hl=th&start=4&um=1&tbnid=2BQbnFvcN6au8M:&tbnh=137&tbnw=130&prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B8%25AA.%25E0%25B8%2584.%25E0%25B8%25AA.%2B%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2588%2B2553%26hl%3Dth%26client%3Dfirefox-a%26rls%3Dorg.mozilla:en-US:official%26sa%3DG%26um%3D1


ข่าวการศึกษา

ค้นข่าวมาเล่า

คุณครูต้องรู้ไว้(แสดงผลแบบสุ่ม)

แบบคำขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
เปรียบเทียบการหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน(ฉบับปรับปรุง) กับหลักสูตรปัจจุบัน
ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50
แบบฟอร์ม การบันทึกงานประจำวัน การรายงานประจำสัปดาห์ การส่งงวดงาน รับผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคารต่างๆ
การย้ายพนักงานงานราชการ
รวมกฏกระทรวงศึกษาธิการ
หลักสูตรใหม่กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
การขออนุญาตจัดตั้งโรงเรียนระดับก่อนประถมศึกษา (อนุบาล)
หลักในการบริหารเวลาของคนเป็นครู
เว็บไซต์เขตพื้นที่การศึกษาทั้งหมด
บัญชีเงินเดือนใหม่ ต.ค.50
การวิจัยในชั้นเรียน ไม่ยากอย่างที่คิด
การเรียนการสอนรายบุคคล (Individualized Instruction)
ร่างพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง
หลักสูตรใหม่กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาฯ
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2545
จรรยาบรรณครู
คู่มือหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางของงานก่อสร้างและหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติการชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญ
จรรยาบรรณในวิชาชีพครู
การปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ลว 2 ม.ค. 51)
ข่าว/ประกาศ
ข่าวสาร และประกาศต่างๆ ที่น่าสนใจ
บทความเทคโนโลยีการศึกษา
บทความ บทความวิจัย เนื้อหาที่น่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษา
Technology
เทคโนโลยี ที่เป็นที่สนใจในอดีตและปัจจุบัน
e-Learning
เทคโนโลยีการเรียนการสอน การฝึกอบรมด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์รูปแบบต่างๆ
Graphics & Multimedia
ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์กราฟิก และสื่อมัลติมีเดีย
OpenSource & Freeware
เนื้อหาการใช้งานซอฟต์แวร์ในกลุ่ม Open Source & Freeware
ซอฟต์แวร์แนะนำ
แนะนำซอฟต์แวร์และโปรแกรมต่างๆ ที่ช่วยในการสร้างสรรงานเทคโนโลยีการศึกษา
ทฤษฎีทางการศึกษา
ทฤษฎีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ของนักปรัชญาทั่วโลก
เครื่องมือและเทคนิคการถ่ายภาพ
เครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ
Hot Issue
รวมเรื่องราวที่เป็นสิ่งที่น่าสนใจในปัจจุบัน
Research Library
รวมงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการศึกษา ทั้งของไทยและต่างประเทศ
Questions in ETC
คำถาม คำตอบที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการศึกษา
แวดวงนักเทคโนฯ
ข่าวคราว ความเคลื่อนไหวในแวดวงนักเทคโนโลยีการศึกษา ทั้งในและต่างประเทศ
ข่าวการศึกษา
รวบรวมข่าวการศึกษาจากแหล่งข่าวต่างๆ มาอัพเดทท่านครับ
คุณครูควรรู้ไว้
เรื่องพื้นฐานต่างๆ ที่ข้าราชการครูต้องรู้ไว้
คณิตศาสตร์
สาระน่ารู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์
เนื้อหาสาระทางด้านวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา
ภาษาต่างประเทศ
สาระน่ารู้ เนื้อหากลุ่มสาระวิชาภาษาต่างประเทศ
ภาษาไทย
เนื้อหาสาระเกี่ยวกับกลุ่มสาระวิชาภาษาไทย
สุขศึกษาและพลศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ศิลปศึกษาและดนตรี
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปศึกษาและดนตรี
การงานอาชีพและเทคโนโลยี
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี
My Profile
ข้อมูลส่วนตัว ของผู้จัดทำเว็บไซต์ครูบ้านนอก.คอม
เรื่องราวจากสมาชิก
เรื่องเล่าจากสมาชิก ครูบ้านนอก ครับ ใครมีอะไรดีๆ ทำอะไรดีๆ วิธีการใหม่ๆ ก็นำมาเล่าสู่กันฟังในห้องนี้นะครับ
เตรียมประเมินวิทยฐานะ
รวมเอกสารหลักเกณฑ์และแนวทางการประเมินวิทยฐานะ
ความรู้ทั่วไป
แหล่งรวมสาระ ความรู้ทั่วไป ความรู้รอบตัว
ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
เผยแพร่ผลงานวิชาการเล่มเต็ม ความกรุณาจากครูผู้มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน
ข่าวตามกระแสสังคม
ข่าวฮอต ฮิต ตามกระแสสังคมไทย
สาระดีๆจากนานมีบุ๊คส์
เนื้อหาสาระดีๆ ความรู้ทั่วไป เรื่องที่น่ารู้ สนับสนุนโดย นานมีบุ๊คส์
ภาพอบรม/สัมมนา
ภาพการอบรม สัมมนาต่างๆ
การวิจัยทางการศึกษา
รวมข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการวิจัยทางการศึกษา

หมอ-เภสัชชี้ตัวแทนขายยา ต้องมีความรู้-มารยาทดี

หมอ-เภสัชกร ระบุ ตัวแทนขายยาต้องมีความรู้ ถ่ายทอดข้อมูลได้อย่างถูกต้อง-มารยาทที่ดีพร้อมหนุนบริษั..

16 ธันวาคม 2552, 00:45 น.

แมลงวันไม่ตอม ปลาร้าปลาเค็ม สัญญาณอันตราย

อย.ลุยตรวจ ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาแห้งย่านตลาดไท พบสารฆ่าแมลงปนเปื้อน 80-90% เตรียมส่งทีมลงพื้นที่ภาคกลาง อ..

15 ธันวาคม 2552, 17:10 น.

พศ.ประกาศสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่น 82 แห่ง

สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ประกาศรายชื่อ สำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นปนะจำปี 52 เฉลิมพระเกียรติในหลวง โดย กทม..

15 ธันวาคม 2552, 15:19 น.

ประกาศหลักสูตรใหม่ลดเนื้อหาซ้ำซ้อน

ที่ประชุมองค์กรหลักกระทรวงศึกษาธิการ สรุปแนวปฏิบัติหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานใหม่ ที่จะเริ่มใ..

15 ธันวาคม 2552, 06:00 น.

ผลสอบชี้ "หมอปราชญ์" ไม่ผิด จัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉิน

คกก.ชุดที่มีปลัดยุติธรรมเป็นประธาน สอบสวนจัดซื้อรถรพ.ฉุกเฉิน เห็นขัดแย้งกับการพิจารณาชี้มูลความ..

15 ธันวาคม 2552, 05:30 น.

ด้วงน้ำมัน..แมลงมีสารพิษ ศัตรูทั้งพืชอันตรายต่อมนุษย์

ด้วงน้ำมัน เป็นแมลงปีกแข็ง ตัวดำ ขาดำและหนดดำ พบได้ทั่วประเทศ จะเริ่มระบาดมากในช่วงเดือนกันยายน-..

15 ธันวาคม 2552, 05:00 น.

ไทย-มาเลย์ ร่วมตั้ง "สถาบันฮาลาลแห่งชาติ"

ให้ยุบศูนย์ฮาลาล จุฬาฯ ผนวกกับ ก.วิทย์ ต่อยอดงานใช้เทคโนโลยีพัฒนาอุตสาหกรรม คาดที่ใช้งบประมาณไม่..

15 ธันวาคม 2552, 02:30 น.

วธ.ตั้งค่าหัวโจร2แสนบาท ลักโบราณวัตถุขอนแก่น

วธ.ตั้งค่าหัวมือโจรกรรมโบราณวัตถุจากพิพิธภัณฑ์ฯขอนแก่น 2 แสนบาท เบื้องต้นประเมินมูลค่า 91 รายการเก..

14 ธันวาคม 2552, 18:40 น.

หวั่นวัตถุล้ำค่าถูกโจรกรรม โคราชจัดเวรยามเข้มงวด

พิพิธภัณฑ์ในจังหวัดนครราชสีมา จัดเวรยามเข้มงวดเป็น 2 เท่า หวั่นวัตถุล้ำค่าถูกโจรกรรม นอกจากนี้ทา..

14 ธันวาคม 2552, 18:00 น.

ปภ.เตือน34จังหวัด เป็นพื้นที่ประสบภัยหนาว

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เผย 34 จังหวัดกำลังประสบภัยหนาว เตือนประชาชนที่สัญจรไป-มา ให้ระมัดระว..

ที่มา http://www.thairath.co.th/edu